ทำไมเราถึงรู้สึก 'ตามหลังเพื่อน' เสมอในเดือนธันวาคม?
เคยไหมที่รู้สึกว่าปีนี้มีแต่เรื่อง "พังๆ" บทความนี้จะชวนคุณมองความพังทลายด้วยมุมมองใหม่ ด้วยปรัชญา Kintsugi เพื่อให้เราได้ประกอบร่างใหม่ที่งดงามกว่าเดิม

สิ้นปีนี้ เรามองย้อนกลับไปแล้วพบแต่รอยร้าวใช่ไหม เรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามแผน ความรู้สึกผิดหวังที่ซ่อนอยู่ ปีที่ดูเหมือนมีแต่ “ความพังทลาย” ที่ทำให้เราอยากซ่อนมันไว้ใต้พรม ความรู้สึกเหมือนตัวเอง “ไม่ดีพอ” หรือ “ตามหลังเพื่อน” ที่ดูเหมือนจะไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
เราอยากบอกว่าความรู้สึกเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ในวันที่โลกหมุนเร็วและคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากเราตลอดเวลา การที่เราจะรู้สึกว่าตัวเอง “พัง” หรือ “ตามหลัง” ใครๆ ในช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เราต่างเคยแบกรับความรู้สึกนี้ไว้เงียบๆ เพียงลำพัง เราต่างเคยเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับเส้นทางของผู้อื่น และรู้สึกว่าเส้นทางของเรานั้นดูขรุขระและเต็มไปด้วยอุปสรรคเหลือเกิน
เราอยู่ในสังคมที่ยกย่องความสำเร็จที่มองเห็นได้ง่ายๆ ผ่านหน้าจอ ในขณะที่ความพยายามเบื้องหลัง น้ำตาที่หลั่งริน และความล้มเหลวที่ต้องเผชิญกลับถูกซ่อนไว้ การรู้สึกผิดหวังในตัวเองจึงไม่ใช่ความผิดของเรา แต่เป็นผลผลิตของความคาดหวังที่ไม่สมจริงต่างหาก และมันถึงเวลาแล้วที่เราจะอนุญาตให้ตัวเองได้รู้สึก อนุญาตให้ความเจ็บปวดและรอยร้าวเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง
จริงๆแล้วสิ่งที่ดูเหมือน “ความพังทลาย” อาจเป็น “วัตถุดิบ” ที่สำคัญที่สุดในการสร้างตัวตนใหม่ ที่งดงามกว่าเดิม เหมือนกับศิลปะ Kintsugi ของญี่ปุ่น ที่นำชิ้นส่วนที่แตกหักของถ้วยชามมาซ่อมด้วยทองคำ ทำให้รอยร้าวนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สวยงามและมีคุณค่า รอยร้าวเหล่านั้นไม่ใช่ตำหนิที่ต้องปกปิด แต่มันคือหลักฐานของเรื่องราว การเดินทาง และความอดทน
ลองนึกภาพเสาบ้านที่เราอาศัยอยู่ หากเสาต้นนั้นมีรอยร้าวเล็กๆ เราอาจจะรู้สึกว่ามันไม่สมบูรณ์แบบ หรืออยากซ่อนมันไว้ใต้สีทับ แต่ถ้าเราเลือกที่จะมองรอยร้าวนั้นอย่างเข้าใจ แล้วค่อยๆ บรรจงซ่อมแซมด้วยความใส่ใจ เสาต้นนั้นจะไม่เพียงแค่กลับมาแข็งแรง แต่รอยทองที่เติมเต็มเข้าไป จะเล่าเรื่องราวความอดทนและความงามที่ไม่เหมือนใคร รอยร้าวไม่ได้ทำให้บ้านพังทลายลง แต่มันกลายเป็นเครื่องเตือนใจว่าเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง และพร้อมจะรองรับส่วนอื่นๆ ได้อย่างมั่นคงกว่าเดิม ความเปราะบางที่ได้รับการเยียวยาคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ความพังทลายในปีนี้ไม่ใช่จุดจบ แต่มันคือการเปิดพื้นที่ให้เราได้ทบทวน ได้เรียนรู้จากบทเรียนที่เจ็บปวด ได้รู้จักขีดจำกัดของตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือได้ “ประกอบร่าง” ตัวเองขึ้นมาใหม่จากประสบการณ์เหล่านั้น มันคือโอกาสที่เราจะได้ทำความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งสำคัญจริงๆ ในชีวิต อะไรคือสิ่งที่เราพร้อมจะปล่อยวาง และอะไรคือสิ่งที่เราอยากจะรักษาและสร้างให้แข็งแกร่งกว่าเดิม การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบคือจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างแท้จริง
เราอยากชวนคุณเขียน “จดหมายถึงตัวเองในปีนี้” จดหมายเปิดผนึกที่ไร้การตัดสิน ไร้ความคาดหวัง เขียนทุกความรู้สึกที่อยู่ในใจ ขอบคุณทุกช่วงเวลา ทั้งดีและร้าย ขอบคุณความกล้าหาญที่ทำให้เราผ่านมันมาได้ ขอบคุณทุกหยดน้ำตาที่สอนให้เราเข้าใจความอ่อนแอของตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือขอบคุณความพังทลายที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโต
วิธีเขียนจดหมายถึงตัวเองแบบ Kintsugi:
หาเวลาสงบๆ สักครู่: ปลีกตัวจากความวุ่นวาย หาพื้นที่ที่รู้สึกปลอดภัย อาจจะเป็นมุมโปรดในบ้าน หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา เตรียมกระดาษ ปากกา และใจที่เปิดกว้าง
ยอมรับความรู้สึกทุกอย่างที่เกิดขึ้น: ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า ความเสียใจ ความผิดหวัง หรือแม้แต่ความสุขเล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่ ให้ทุกความรู้สึกได้ปรากฏขึ้นโดยไม่ตัดสิน ไม่มีถูกผิดในโลกของความรู้สึกของเรา
เขียนขอบคุณความพังทลายเหล่านั้น: นึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เราเจ็บปวด ที่ทำให้เรารู้สึกแตกสลาย และเขียนขอบคุณมันที่ได้สอนบทเรียนอันล้ำค่า ที่ได้เผยให้เห็นความแข็งแกร่งที่เราไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ ขอบคุณที่ทำให้เราได้รู้จักตัวเองในอีกมุมหนึ่ง
เขียนคำอวยพรให้ตัวเองในเวอร์ชันใหม่: เมื่อเราได้ประกอบร่างตัวเองขึ้นมาใหม่ด้วย “ทองคำแห่งประสบการณ์” แล้ว เราอยากให้ตัวเองในเวอร์ชันใหม่นี้เป็นแบบไหน เขียนความหวัง ความปรารถนา และคำมั่นสัญญาที่จะใจดีกับตัวเองให้มากขึ้น
จงอนุญาตให้ตัวเองภูมิใจกับ “รอยร้าวสีทอง” เหล่านั้น ไม่ต้องซ่อน ไม่ต้องอาย ไม่ต้องรู้สึกว่าต้องสมบูรณ์แบบ การสิ้นสุดปีนี้ไม่ได้วัดด้วยยอดความสำเร็จ หรือจำนวนสิ่งที่ “ทำได้” แต่วัดด้วยจำนวนครั้งที่เรา “ใจดี” กับตัวเอง วัดด้วยจำนวนครั้งที่เรายอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต และพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างเบาใจ และเข้าใจในคุณค่าของตัวเอง
จำไว้ว่าการมีรอยร้าวไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ แต่มันแปลว่าเราเคยแตกหัก และเราก็ซ่อมแซมตัวเองได้ ในแบบที่งดงามและมีคุณค่ากว่าที่เคยเป็นมาเสมอ เราอยู่ตรงนี้พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางของคุณเสมอ


