จดหมายถึงตัวเองในปีนี้: ขอบคุณนะที่พังทลาย... เพื่อให้เราได้ประกอบร่างใหม่ที่งดงามกว่าเดิม
โลกหมุนเร็วและคาดหวังความสมบูรณ์แบบจนเราอาจมองว่ารอยร้าวคือความพ่ายแพ้ บทความนี้ชวนเราเขียนจดหมายขอบคุณตัวเองที่กล้าพังทลายเพื่อประกอบร่างใหม่ที่งดงามกว่าเดิมด้วยปรัชญา Kintsugi

จดหมายถึงตัวเองในปีนี้: ขอบคุณนะที่พังทลาย... เพื่อให้เราได้ประกอบร่างใหม่ที่งดงามกว่าเดิม
สวัสดีนะ... เราอยากชวนคุณมานั่งลงข้างๆ กันในวันสุดท้ายของปีนี้
มีบ้างไหมที่พอเรามองย้อนกลับไปในปีที่กำลังจะผ่านพ้นไป หัวใจเราก็รู้สึกหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนว่าปีนี้มัน “พัง” ไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้เลย
เราอาจจะเห็นแต่รอยร้าว ความผิดพลาด ความอ่อนแอ หรือความไม่สมบูรณ์แบบเต็มไปหมด จนบางทีเราก็แอบรู้สึกผิดหวังในตัวเอง รู้สึกเหมือนเราล้มเหลว และอยากจะซ่อนความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้ให้ลึกที่สุด
โลกภายนอกหมุนเร็วเหลือเกินนะ และมักจะคาดหวังให้เราต้องแข็งแกร่ง ต้องสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ จนบางทีเราก็เผลอไปเชื่อว่า “รอยร้าว” ในใจเราคือข้อบกพร่องที่ต้องปกปิด
เราเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลยนะ ความรู้สึกที่อยากจะวิ่งหนีจากความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง อยากซ่อนมันเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น เพราะกลัวว่าถ้าใครรู้เข้า เราจะไม่เป็นที่ยอมรับ เราจะไม่ดีพอ
แต่เราอยากบอกคุณว่า... ความรู้สึกนี้มันเป็นเรื่องปกติมากๆ เลยนะที่หลายคนก็กำลังเผชิญอยู่ เราไม่ได้อยู่คนเดียวกับความรู้สึกนั้นเลย
ทำไมเราถึงกลัวความไม่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นนะ
สังคมของเรามักจะยกย่องความสำเร็จที่ไร้ที่ติ ภาพความสุขที่ฉาบฉวยบนโลกออนไลน์ทำให้เราเชื่อว่าทุกคนต้องดีพร้อม ต้องมีชีวิตที่ราบรื่นไร้รอยต่อ นั่นทำให้เราเผลอเปรียบเทียบและมองว่ารอยร้าวในชีวิตของเราเป็นความล้มเหลวที่น่าอับอาย เราถูกสอนมาว่าต้องซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมที่สุด หรือไม่ก็โยนทิ้งไปเลยหากมันไม่สมบูรณ์แบบ
แต่เราอยากชวนให้คุณมองด้วยมุมใหม่นะ มองรอยร้าวในแบบเดียวกับที่ช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นทำกับศิลปะที่เรียกว่า “คินสึงิ” (Kintsugi) เมื่อถ้วยชามแตก เขาก็ไม่ได้พยายามซ่อนรอยร้าวเหล่านั้น แต่กลับซ่อมแซมด้วยทองคำ ทำให้รอยร้าวเปล่งประกายงดงามยิ่งกว่าเดิม
สำหรับคินสึงิแล้ว การแตกหักไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เป็นพยานถึงการเดินทาง และรอยร้าวที่ซ่อมด้วยทองคำนั้นคือหลักฐานของความพยายาม การเยียวยา และการกลับมาประกอบร่างใหม่ที่พิเศษกว่าเดิม
เหมือนกับ “เสาบ้านที่มีรอยร้าว” นะ
เมื่อเสาบ้านมีรอยร้าว เราไม่ได้ทิ้งบ้านทั้งหลัง เรายังคงอยู่กับมันและพยายามซ่อมแซม รอยร้าวอาจจะเคยเป็นความอ่อนแอ เป็นจุดที่ทำให้บ้านไม่มั่นคง แต่เมื่อเราซ่อมแซมมันด้วยความใส่ใจ รอยร้าวเหล่านั้นก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่แข็งแกร่งขึ้น เป็นประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าถึงความทนทาน และการที่เราผ่านพ้นพายุต่างๆ มาได้อย่างไร
รอยร้าวในชีวิตของเราก็เช่นกัน มันไม่ใช่ความล้มเหลว แต่มันคือ “วัตถุดิบ” ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ปรับปรุง และประกอบร่างใหม่ในเวอร์ชันที่แข็งแกร่ง อบอุ่น และงดงามกว่าเดิมในแบบของเราเอง
แล้วเราจะโอบกอดรอยร้าวเหล่านั้นได้อย่างไรนะ
ลองเขียน “จดหมายถึงตัวเอง” ดูไหม? มันไม่ใช่แค่การจดบันทึกธรรมดานะ แต่มันคือการอนุญาตให้เราได้สื่อสารกับตัวเองคนเดิมที่เคยเจ็บปวด เคยอ่อนแอ และเคยร้องไห้หนักมาก ลองเขียนขอบคุณเขาคนนั้น ที่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ขอบคุณที่กล้าพังทลายลงมา เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
1. อนุญาตให้ตัวเองรู้สึก: ไม่ต้องพยายามเข้มแข็งตลอดเวลา อนุญาตให้ตัวเองได้รู้สึกเสียใจ ผิดหวัง เหนื่อยล้า และยอมรับว่าเราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึกซับซ้อน การรับรู้และยอมรับอารมณ์ของเราคือก้าวแรกของการเยียวยา
2. ฝึก Self-Compassion: ลองพูดกับตัวเองในแบบที่เราจะพูดกับเพื่อนสนิทที่กำลังเจอเรื่องยากๆ เราจะไม่มีวันบอกเพื่อนว่า “เธออ่อนแอ” หรือ “เธอไม่ดีพอ” ใช่ไหม? เราจะปลอบโยน ให้กำลังใจ และบอกว่า “ไม่เป็นไรนะ” ลองปฏิบัติกับตัวเองในแบบเดียวกันบ้าง
3. มองรอยร้าวเป็นเรื่องราว: แทนที่จะมองว่ารอยร้าวคือความอับอาย ลองมองว่ามันคือเครื่องหมายของประสบการณ์ คือบทเรียนที่ทำให้เราเติบโตและเป็นเราในวันนี้ รอยร้าวเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีความเข้าใจโลกและผู้อื่นมากขึ้น
4. ประกอบร่างใหม่ด้วยความตั้งใจ: การซ่อมแซมไม่ได้แปลว่าต้องกลับมาเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แต่คือการนำชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายกลับมาประกอบกันใหม่ ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้มันงดงามในแบบฉบับใหม่ อาจจะใช้เวลา อาจจะเจ็บปวดบ้างในบางครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือตัวเราที่แข็งแกร่งและมีเรื่องราวที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
การสิ้นสุดปีนี้ไม่ได้วัดด้วยยอดความสำเร็จ หรือจำนวนความสมบูรณ์แบบที่เราทำได้เลยนะ
แต่มันวัดด้วยจำนวนครั้งที่เรา “ใจดี” กับตัวเอง
วัดด้วยจำนวนครั้งที่เรา “อนุญาต” ให้ตัวเองได้พัก ได้รู้สึก ได้ผิดพลาด และได้ลุกขึ้นมาโอบกอดรอยร้าวสีทองของชีวิตเราอย่างภาคภูมิใจ
ขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เราทุกคนได้มีโอกาสได้ใจดีกับตัวเองให้มากขึ้นนะ 🤍


